tag:blogger.com,1999:blog-35702124362761937932024-03-13T05:45:11.969-07:00LANGUAGE EXPERIENCES FOR EARLY CHILDHOODแฟ้มสะสมผลงาน ในรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยนางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-49684754342248711032010-03-01T21:47:00.000-08:002010-03-12T18:24:53.109-08:00บันทึกข้อสอบปลายภาค<span style="font-size:130%;">ข้อสอบ ปลายภาค วิชา การจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br />จงตอยคำถามต่อไปนี้<br /><span style="color:#ff99ff;">1.</span> ในการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยท่านต้องศึกษาในเรื่องใดบ้าง<br /><span style="color:#ff6600;">ตอบ</span> 1. เทคนิคการสอนภาษา<br />2. แนวคิดพื้นฐานของการสอนภาษา<br />3. หลักการสอน <a href="http://www.meemodel.com/images_webboard/id_07582_1.gif" target="_blank"></a></span><br /><span style="font-size:130%;">4.ความหมายของภาษา</span><br /><span style="font-size:130%;">5.ความสำคัญของภาษา</span><br /><span style="font-size:130%;">6.หลักการของการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br /><span style="color:#ff99ff;">2.</span> การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีวัตถุประสงอะไร<br /><span style="color:#ff6600;">ตอบ</span> 1. เพื่อพัฒนาทักษะการพูด การอ่าน<br />2. เพื่อพัฒนาทักษะการพูด การอ่านให้มีประสิทธิภาพเชิงสร้างสรรค์<br />3. เพื่อเสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ของเด็กระดับปฐมวัย ตามเกณฑ์มาตรฐาน<br />4. เพื่อให้เด้กได้เด็กการเรียนรู้เองไปตามธรรมชาติ<br /><span style="color:#ff99ff;">3.</span> หลักการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง<br /><span style="color:#ff6600;">ตอบ</span> 1. ครูจะมีหน้าที่จัดประสบการณ์ที่จะสร้างเสริม ฝึกฝนเด็กให้พัฒนาทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ครูควรต้องยอมรับฟัง ตั้งใจฟัง ไม่มีอคติต่อการใช้ภาษาของเด็กแต่สิ่งที่ควรคิดถึงเสมอ คือ ครูไม่ใช่ผู้ป้อนความรู้ แต่ครูเป็นผู้จัดการความรู้และประสบการณ์ให้แก่เด็ก<br />2. เพื่อให้เด็กได้เรียนภาษาเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสนุกสนาน<br /><span style="color:#ff99ff;">4.</span> ท่านมีแนวทางในการให้ความรู้กับผู้ปกครองเพื่อส่งเริมพัฒนาการทางภาษาได้อย่างไรบ้าง </span><br /><span style="font-size:130%;"><span style="color:#ff6600;">ตอบ <span style="color:#000000;">ในเรื่องของการพูดพ่อแม่หรือผู้ปกครองควรออกเสียงให้ชัดเจน พูดให้ถูกต้องไม่พูดล้อเลียนเสียงเด็กและควรใช้ภาษาที่ซับซ้อนขึ้นตามวัยของเด็กแต่ละวัย ควรหาเวลาพูดคุยกับเด็กให้บ่อยๆ เพื่อเด็กจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่มากขึ้น ถ้าเด็กมีข้อบกพร่องในการออกเสียง พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรจัดหาวิธีเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในการออกเสียง พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรให้เวลากับเด็กในการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง และระหว่างนั้นควรมีการซักถาม พูดคุยกับเด็ก-พ่อแม่และผู้ปกครองควรจัดหาหนังสือที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้เด็กได้เรียนรู้จากสื่อที่หลากหลาย</span><br /></span><span style="color:#ff99ff;">5.</span>ให้ท่านเลือกกิจกรรมส่งเสนิมพัฒนาทางภาษาที่ท่านชอบที่สุดพร้อมให้เหตุผล</span><br /><span style="color:#ff6600;"><span style="font-size:130%;">ตอบ </span><span style="font-size:100%;color:#000000;"><strong><span style="color:#33cc00;">ชื่อกิจกรรม</span> อ่านข่าวตอนเช้า</strong></span></span><br /><span style="color:#000000;"><strong><span style="color:#33cc00;">วัตถุประสงค์</span> เพื่อให้เด็กได้ฝึกทักษะการอ่าน เพื่อให้เด็กได้ฝึกทักษะในการใช้ภาษา เพื่อศึกษาพฤติกรรมของเด็กในการร่วมทำกิจกรรม เพื่อที่จะได้รู้และเข้าใจในตัวเด็กมากขึ้น</strong></span><br /><span style="color:#000000;"><strong><span style="color:#33cc00;">กิจกรรม</span> ให้เด็กได้เล่าถึงเรื่องราวในกิจวัตรประจำของเด็กเป็นข่าวว่าตัวเองทำอะไรบ้างตั้งแต่ตื่นนอนมาทำอะไรบ้าง ทานข้าวกับอะไร ใครเป็นคนมาส่ง จนกระทั่งมาถึงโรงเรียน เป็นต้น</strong></span><br /><span style="color:#000000;"><strong><span style="color:#33cc00;">ประเมินผล</span> สังเกตจากการร่วมทำกิจกรรม และสังเกตจากการตอบคำถามเล่าเรื่องราวของเด็กแต่ละคนบ้างคนก็ยังไม่คุ้นเคยกับเรา จึงทำให้ขณะที่ร่วมทำกิจกรรมเด็กมีอาการเขินอาย ไม่กล้าพูด เวลาถามก็จะตอบแค่ประโยคสั้นๆ และทำไห้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับครู</strong></span>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-17529591961742934522010-03-01T21:23:00.001-08:002010-03-01T21:28:59.854-08:00บันทึกการเรียนครั้งที่ 11<p align="left"><strong><span style="color:#cc66cc;"><span style="font-size:130%;">จากการที่ได้เรียนวิชานี้ได้รับความรู้มากมายและได้ปฏิบัติงานจริงเพราะว่าถ้าเราไม่ลงงานจริง จะไม่รู้เลยว่า เด็กอนุบาลคิดอย่างไรอยากเรียนรู้สิ่งใดมากกว่าจากที่ได้ไปจัดกิจกรรมที่โรงเรียนสาธิตครั้งนั้นทำให้รู้ว่าเด็กจะชอบอะไรให้เล่านิทานมากกว่าซึ่งกิจกรรมเรานำสิ่งที่แปลกใหม่ก็จริงแต่มันไม่ค่อดึงดูดเด็กเท่าไรหนัก เพราะว่าเด็กจะชอบภาพสีสวยๆ ชอบดูรูปภาพมากกว่าจะทำกิจกรรมกับนักศึกษา</span></span></strong></p>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-41180309126931121152010-02-12T01:19:00.000-08:002010-02-12T01:51:42.528-08:00บันทึกครั้งที่ 10ส่งงานนิทานเรื่อง ลูกเป็ดขี้เหร่<br /><br />จัดทำโดย นางสาวนันทนากร์ หุ้นศรี<br />และ นางสาวอัญชลี รัตนวรรณ<a href="http://3.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/S3UdKIEXp8I/AAAAAAAAACQ/HXAJFdKtmAo/s1600-h/111.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5437284184921450434" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 249px; CURSOR: hand; HEIGHT: 105px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/S3UdKIEXp8I/AAAAAAAAACQ/HXAJFdKtmAo/s320/111.JPG" border="0" /></a>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-4855051818900941312010-02-05T01:19:00.000-08:002010-02-12T04:57:35.085-08:00บันทึกครั้งที่ 9222<a href="http://3.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/S3UmFrPxdsI/AAAAAAAAACg/WK9NTU2Dkf0/s1600-h/5.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5437294004069824194" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 240px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/S3UmFrPxdsI/AAAAAAAAACg/WK9NTU2Dkf0/s320/5.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="font-family:arial;font-size:180%;"></span></div><br /><div><span style="font-family:arial;font-size:180%;"></span></div><br /><div><span style="font-family:arial;font-size:180%;">รายงานต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:130%;"><br />กล่มที่ 1 เล่านิทานประกอบเพลง เพื่อนรายงาน<br />กลุ่ม 3 เล่านิทานโดยการอัดเสียง<br />กลุ่ม5 ปฎิบัติตามคำส่ง โดย มีเพื่อนรายงานทั้งหมด 4คน<br />นางสาวนันทนากรณ์ ได้รับได้ไปทำกิจกรรมให้เด็ก อนุบาล 2</span></div><br /><div><span style="font-family:arial;font-size:130%;"></span></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-31695862792025904432010-01-29T00:52:00.000-08:002010-01-29T00:54:19.940-08:00บันทึกครั้งที่ 8วันนี้อาจารย์ทบทวนและพูดคุยกับนักศึกษา<br /> เกี่ยวกับงานกลุ่มที่สั่งให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม4คน 6กลุ่ม จัดกิจกรรมทางภาษาที่โรงเรียนอนุบาลสาธิตจันทรเกษม อาจารย์บอกรายละเอียดและยกตัวอย่างกิจกรรมของแต่ละกลุ่มให้นักศึกษาฟัง และฝึกให้นักศึกษาคิดตาม พร้อมทำความเข้าใจ<br />-พร้อมทั้งให้นักศึกษาทำตารางการจัดกิจกรรมทางภาษาส่งมาให้อาจาย์ดูทุกกลุ่ม<br />-รวมทั้งอาจารย์ตรวจงานปริศนาคำทายให้กับนักศึกษา และยกตัวอย่างการพิมพ์คำและแยกคำเพื่อใช้ในการอ่านให้เด็กอ่านง่ายและให้เด็กได้จำคำต่างๆได้<br /><span style="color:#ff0000;">บรรยากาศในห้องเรียน</span><br />วันนี้อากาศเย็นสบาย มีการให้นักศึกษาลองออกมานำเสนองานปริศนาคำทายทีละคนนางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-37702784270608812922010-01-22T01:00:00.000-08:002010-01-22T01:02:45.547-08:00บันทึกครั้งที่7<span style="color:#009900;">วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553</span><br /><a name="7221711277514334293"></a> <span style="color:#ff6600;">วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ 2552อาจารย์สั่งงานว่าจะให้นักศึกษาจับกลุ่มวันละ3คน ไปเล่านิทานตอนเช้าให้เด็กฟังที่สาธิตอนุบาลจันทรเกษม ให้วางแผน จดบันทึก และถ่ายรูป (บันทึกลงบล็อก) รายละเอียดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมควรที่จะเลือกเรื่องแบบไหนเล่าเรื่องอะไร หน่วยที่จะเล่า เป็นต้น</span><br /><span style="color:#33cc00;">บรรยากาศในห้องเรียน</span><br />บรรยากาศเย็นสบาย เรียนแบบสบายๆ มีการถามตอบแสดงความคิดเห็นในห้องเรียนนางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-48356545884713098072010-01-22T00:49:00.000-08:002010-01-22T01:00:19.993-08:00บันทึกครั้งที่ 5วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552<br /><a name="3927871233613315369"></a><br /><span style="color:#33ccff;">วันนี้นำเสนองานต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว</span><br /><span style="color:#33ccff;">กลุ่มที่4 <span style="color:#33cc00;">การสอนภาษาแบบองค์รวมการสอนภาษาแบบองค์รวม</span> เป็นปรัชญาแนวคิดความเชื่อที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ เป็นการสอนที่เน้นพัฒนาการทุกๆด้าน ทั้งการ ฟัง พูด อ่าน เขียน สิ่งสำคัญในการสอนภาษาแบบองค์รวมคือต้องพัฒนาให้เข้ากับผู้เรียนเป็นสำคัญ</span><br /><span style="color:#33ccff;">กลุ่มที่5 <span style="color:#33cc00;">การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กการจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก</span> ควรคำนึงถึงเด็กเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทุกด้าน การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กในการจัดควรจัดให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กแสดงออกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ จัดให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ทางภาษาหลักการจัดประสบการณ์ เป็นวิธีที่เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้เด็กลงมือกระทำ ทางด้านจิตวิทยาเป็นการทำให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลง คือการได้ทดลองปฏิบัติ ต้องเป็นการปฏิบัติที่เป็นไปตามธรรมชาติ คือ มีอิสระ สนุกสนาน ไม่มีกรอบ เป้นการจัดบนพื้นฐานความสนุกสนาน ไม่มีขอบเขตบังคับ</span><br /><span style="color:#33ccff;">บรรรยากาศในการเรียนวันนี้ ก็ดีค่ะเพราะ</span>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-79243063532050698702009-12-11T01:30:00.000-08:002009-12-11T01:39:50.425-08:00บันทึกการเรียนครั้งที่ 4<span style="color:#ff0000;">การนำเสนองานเป็นกลุ่ม</span><br /><br />กลุ่มที่1 เรี่อง <span style="color:#6666cc;">ความหมายของภาษา</span> คือ เป็นเครื่องมือของมนุษย์ที่ใช้ในการสื่อสาร และการกระทำที่แสดงออกมาเพื่อจะสื่อถึงความรู้สึกนึกคิดของแต่ละบุคคลว่าต้องการทำอะไรหรือต้องการอะไรนางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-72170208805677262502009-12-03T00:10:00.000-08:002009-12-03T00:18:05.876-08:00บันทึกการเรียนครั้งที่3<div align="left"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-family:courier new;">นางสาวนันทนากร์ หุ้นศรี </span><span style="font-family:courier new;">(อ้อม) </span></span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">รหัสนักศึกษา 5111207386</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;"></span> </div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">วันที่27 พ.ย.52 อาจารย์ ไปสัมนาการพัฒนาหลักสูตร ที่ จ.กาญจนบุรี </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ใ</span><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ห้นักศึกษาค้นคว้าและนำเสนอกิจกรรมและสื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;"></span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">สำหรับเด็กปฐมวัยโดยเขียนลงในบล็อกเทคนิคการสอนภาษาการสอนภาษาสำหรับเด็กต้องรวมถึงทักษะการฟัง การพูดด้วย ไม่ใช่เพียงแต่ทักษะการอ่านการเขียนเท่านั้น เพราะการฟังการพูดเป็นพื้นฐานของการอ่านและการเขียนครูสามารถประเมินผลการสอนของตนเองจากเด็กได้ง่ายๆ โดยสังเกตว่าเราสอนเด็กรู้สึกอย่างไรแนวคิดพื้นฐานของการสอนภาษาครูต้องทราบว่าเด็กของเราเรียนรู้อย่างไรและเด็กเรียนรู้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติอย่างไร ประสบการณ์ทางด้านภาษาของเด็กเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เชื่อว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ เด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด ถ้าเราสอนแบบWhole Language คือ สอนอย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อหาอยู่ในชีวิตประจำวัน ให้เด็กรู้สึกว่าตัวเขาเป็นส่วนหนึ่งในสังคมของห้องเรียน ไม่ให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแข่งขัน ครูต้องสอนทุกทักษะไปพร้อมๆกันและเกี่ยวข้อกัน ทำให้การเรียนภาษาของเด็กเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสนุกสนานควรสอนภาษาเด็กอย่างไรควรเริ่มจากสิ่งที่เด็กรู้แล้วและอยู่ในความสนใจของเด็ก ให้ความเคารพกับภาษาที่เด็กใช้ มีการประเมินโดยการสังเกต ใช้วิธีการประเมินที่เหมาะสม มีการเสนอความคิดต่อผู้ปกครอง ส่งเสริมให้เด็กเรียนอย่างกระตือรือร้น จดประสบการณ์การอ่านและส่งเสริมให้เด็กลงมือกระทำตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมการพูด อธิบายหรือเล่าถึงภาพที่เห็น ,ทำท่าประกอบคำการพูด , เรียกชื่อตามนิทานตัวอย่างกิกรรมส่งเสริมการเขียนและการอ่านที่บ้าน แนะนำให้ลูกหัดสังเกต ชักชวนให้ลูกอ่านเครื่องหมายจราจร ไปห้องสมุดกับลูกและยืมหนังสือด้วยกัน ฝึกให้ลูกจดบันทึกกิจกรรมที่ท่านกับลูกทำด้วยกันตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมการฟัง ,ฟังประกอบหุ่น, ฟังเสียงคำคล้องจองขั้นตอนการอ่านและการเขียน</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่1 คาดเดาภาษาและหนังสือ แก้ไขความผิดพลาดของความหมายด้วยตนเอง</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่2 แก้ไขข้อผิดพลาดในประโยคด้วยตนเอง</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่3 จำคำที่คุ้นเคยได้ คาดคะเนความหมายจากบริบท</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่4 เข้าใจเกี่ยวกับ การเริ่มต้น และ การลงท้าย เมื่อนำมาใช้ในการเดาคำ</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่5 สร้างคำศัพท์จากสิ่งที่พบเห็นได้มาก</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขึ้นการเขียนในขั้นตอนการเขียนของเด็กจะพบว่าเด็กจะมีพัฒนาการแบ่งได้เป็น 6 ขั้น ดังนี้</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่1 ขีดเขี่ย </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่2 เขียนเส้นตามยาวซ้ำๆกัน </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่3 เริ่มเขียนได้มีรูปร่างคล้ายตัวอักษร </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่4 เขียนตัวอักษรและสัญลักษณ์ของคำเริ่มต้นได้สัมพันธ์กัน </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่ 5 สร้างตัวสะกดเอง </span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ขั้นที่ 6 สามรถเขียนได้ถูกต้องตามแบบแผน</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">ข้อควรปฏิบัติในการสอนภาษา</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">1.ควรสอนในสภาพที่เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่การจับเด็กมานั่งเรียนอย่างเดียว</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">2.ควรสอนโดยไม่มีการแบ่งแยกกลุ่มเด็กเก่งเด็กอ่อน</span></div><div align="left"><span style="font-family:courier new;color:#330033;">3.การที่เด็กเกิดมาพร้อมกับความสนใจอยากรู้แล้ว จะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาสามารถจำคำต่างๆได้ โดยครูอาจใช้ความคิดเกี่ยวข้องกับภาษาของเด็กมาสอน ขณะที่เด็กกำลังสนใจที่จะเยนชื่อตัวเอง ก็จะสอนให้เด็กทราบว่าชื่อตัวเองสะกดอย่างไร</span></div>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-82494910885892563992009-11-13T01:20:00.000-08:002009-11-13T01:53:00.805-08:00บันทึกการเรียนครั้งที่2<span style="color:#ff0000;">วันศุกร์ ที่ 13 พฤสจิกายน พ.ศ.2552</span><br /><span style="color:#ff0000;">คำสั่งอาจารย์ให้นักศึกแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ได้ เป็นกลุ่มที่ 3</span><br /><br />บรรยายกาศการเรียนในห้องดีจังเพื่อนๆๆต่างตั้งใจทำงานกัน และเย็นสบายดีค่ะ<br /><br /><br /><br /><p><span style="font-size:180%;"><span style="color:#cc0000;">เรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้</span></span></p><p><span style="color:#33ccff;">สรุป</span></p><p><span style="color:#33ccff;">ความหมายของจิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยา ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Psychology มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก 2 คำ คือ Phyche แปลว่า วิญญาณ กับ Logos แปลว่า การศึกษา ตามรูปศัพท์ จิตวิทยาจึงแปลว่า วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับวิญญาณ แต่ในปัจจุบันี้ จิตวิทยาได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ความหมายของจิตวิทยาได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นั่นคือ จิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่ศึกษากี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์การเรียนรู้ (Lrarning) ตามความหมายทางจิตวิทยา หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลอย่างค่อนข้างถาวร อันเป็นผลมาจากการฝึกฝนหรือการมีประสบการณ์ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงที่ไม่จัดว่าเกิดจากการเรียนรู้ ได้แก่ ฤติกรรมที่เป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เนื่องมาจากวุฒิภาวะจากความหมายดังกล่าว พฤติกรรมของบุคคลที่เกิดจากการเรียนรู้</span></p>นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3570212436276193793.post-63945798209872224122009-11-06T01:11:00.000-08:002009-11-12T23:22:54.827-08:00บันทึกการเรียนครั้งที่ 1<span style="color:#ff0000;">นางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรี </span><br /><span style="color:#ff0000;">รหัสนักศึกษา 5111207386<br />วันที่ 6 พฤพิกายน 2552</span><br /><a href="http://2.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/SvPp88714oI/AAAAAAAAAB4/QxV_kuJmOaA/s1600-h/55.gif"></a><br /><br /><div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/SvPp88714oI/AAAAAAAAAB4/QxV_kuJmOaA/s1600-h/55.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5400917611505902210" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 44px" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/SvPp88714oI/AAAAAAAAAB4/QxV_kuJmOaA/s320/55.gif" border="0" /></a></div><br /><br /><div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/SvPp88714oI/AAAAAAAAAB4/QxV_kuJmOaA/s1600-h/55.gif"></a></div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_fSmBw4q7wOs/SvPp88714oI/AAAAAAAAAB4/QxV_kuJmOaA/s1600-h/55.gif"></a><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><span style="color:#6633ff;">1 การจัดประสบการณ์ทางภาษาของเด็กปฐมวัย</span><br /><span style="color:#6633ff;"></span><br />คือ การจัดการเรียนรู้และประสบการณ์ภาษาไทยและภาษาถิ่นการเตรียมคาวมพร้อมให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะภาษาได้อย่างถูกต้องและมีพัฒนาการด้านต่างๆ<br /><br /><span style="color:#6633ff;">2 บรรยากาศภายในห้องที่เรียนในวันนี้ ในความรู้สึกของเรา</span><br /><br />บรรยากาศรู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีเพราะอากศเย็นมากเกินไป และรู้สึกว่ามันเรียนแล้วไม่ค่อยสบายเท่าไร ส่งผลให้การเรียนไม่ค่อยดีและเงียบเกินไป<br /><br /><span style="color:#6633ff;">3. สรุปการจัดประสบการณ์ทางภาษาของเด็กปฐมวัย ของนักศึกษาเอง</span><br /><br />คือ การพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด-5 ปี ให้มีประสบการณ์ทางภาษาในทุกด้าน ร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ให้ได้พัฒนาไปตามช่าวอายุวัยของเด็ก ในด้าน การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน<br /><br /><span style="color:#6633ff;">4. นำเอาข้อ1และข้อ3มาเปรียบเทียบกัน</span><br /><br />คือ การจัดการเรียนรู้ทางภาษาให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งแต่แรกเกิด-5ปี ได้มีทักษะทางด้านสติปัญญาในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน ได้ตามพัฒนาการของเด็กนางสาวนันทนากรณ์ หุ้นศรีhttp://www.blogger.com/profile/14752042216014088981noreply@blogger.com0